กรมการปกครอง ร่วมพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล และพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะ เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี “สมเด็จย่า” ของปวงชนชาวไทย

18 กรกฎาคม 2566

วันอังคารที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2566 เวลา 06.30 น. ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง ร่วมพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล และพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะ เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี “สมเด็จย่า” โดยมี นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่ เข้าร่วมพิธี

สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงเป็นพระบรมราชชนนีของพระมหากษัตริย์ไทยสองพระองค์ คือ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล (รัชกาลที่ 8 และพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่ 9) และทรงเป็นสมเด็จพระอัยยิกาในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี “สมเด็จย่า” ทรงอุทิศพระวรกายทรงงานอย่างต่อเนื่องตลอดพระชนม์ชีพ พระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จย่าที่ทรงมีต่อประเทศไทยนั้นเอนกอนันต์ พระองค์ทรงงานหลายด้านเพื่อเหล่าพสกนิกร ทั้งด้านการแพทย์และสาธารณสุข ด้านการศึกษาของเยาวชนในชนบท รวมถึงงานอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และเพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของชุมชนที่ยากไร้ และชนกลุ่มน้อยในพื้นที่ห่างไกลในประเทศไทยให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทรงก่อตั้ง “มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง” ในพระบรมราชูปถัมภ์ ชาวไทยภูเขาเปรียบพระองค์เสมือนเสด็จมาจากฟากฟ้าเพื่อปัดเป่าความทุกข์ยากให้ เขาเหล่านั้นจึงถวายพระสมัญญา “แม่ฟ้าหลวง” อันสะท้อนถึงความเคารพรักบูชาจากหัวใจชาวไทยภูเขาทุกคน

สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี “สมเด็จย่า” ทรงตระหนักดีถึงความยากลำบาก การขาดโอกาสในชีวิต รวมถึงความเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นกับราษฎรในท้องถิ่นทุรกันดารของประเทศไทย ทุกครั้งที่พระองค์เสด็จฯ เยี่ยมราษฎร จึงได้มีบุคลากรทางการแพทย์ร่วมคณะเพื่อตรวจรักษาผู้ที่เจ็บป่วยในพื้นที่ และทรงนำเครื่องนุ่งห่ม อาหาร สิ่งของที่จำเป็น และของเล่นสำหรับเด็กเข้าไปพระราชทานให้แก่คนในพื้นที่ ถือเป็นขวัญกำลังใจให้ราษฎรของพระองค์

จวบจนเมื่อวันอังคารที่ 18 กรกฎาคม 2538 สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ ‘สมเด็จย่า’ ของปวงชนชาวไทย เสด็จสวรรคตที่โรงพยาบาลศิริราช รวมพระชนม์มายุ 95 พรรษา โดยองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก (UNESCO) ยกย่องให้สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีเป็น “บุคคลสำคัญของโลก” ประจำปี พ.ศ. 2543 ในฐานะที่ทรงมีผลงานดีเด่นเพื่อส่วนรวมในด้านการศึกษา วิทยาศาสตร์ประยุกต์ การพัฒนามนุษย์ สังคม และสิ่งแวดล้อม