รองอธิบดีกรมการปกครอง ร่วมลงพื้นที่มอบนโยบายขับเคลื่อน ศจพ. ในระดับพื้นที่ 15 จังหวัดภาคเหนือ

1 มีนาคม 2565

วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 09.00 น. ณ โรงแรมเลอ เมอริเดียน เชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มอบนโยบายและบรรยายพิเศษแนวทางการขับเคลื่อนศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (ศจพ.) ในระดับพื้นที่ โดยมี ปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด 15 จังหวัดภาคเหนือ พร้อมด้วยประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัด พัฒนาการจังหวัด ท้องถิ่นจังหวัด และนายอำเภอ ร่วมรับฟัง และถ่ายทอดสดการประชุมผ่านระบบ DOPA Channel ไปยังทุกจังหวัด/อำเภอทั่วประเทศ โดยมี ปลัดอำเภอ พัฒนาการอำเภอ สาธารณสุขอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ร่วมรับฟัง

ในการนี้ร้อยตำรวจโท ภพชนก ชลานุเคราะห์ รองอธิบดีกรมการปกครอง ได้ร่วมมอบนโยบายขับเคลื่อน ศจพ. ในประเด็นเกี่ยวข้องกับกรมการปกครอง โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้

รองอธิบดีกรมการปกครอง ขอให้นายอำเภอให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (ศจพ.) ระดับพื้นที่ เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนของประชาชนอย่างยั่งยืน โดยให้นายอำเภอกำหนดให้เป็น “วาระของอำเภอ” ที่จะต้องเร่งดำเนินการให้บรรลุเป้าหมายภายในวันที่ 30 กันยายน 2565

กำกับดูแลและให้ความช่วยเหลือ อสม. ในการสำรวจและบันทึกข้อมูลปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนผ่านระบบ Thai QM ให้ถูกต้องครบถ้วน โดยใช้ข้อมูลจาก TPMAP และข้อมูลที่เก็บเพิ่มเติมจากระบบ Thai QM มาเป็นฐานในการเลือก “เมนูแก้จน” ให้เหมาะสมกับสถานการณ์และบริบทของพื้นที่

ติดตาม ดูแล ให้คำแนะนำ และเป็นที่ปรึกษา ให้แก่ครัวเรือนยากจนเป็นเป้าหมายอย่างใกล้ชิด (Intensive Care) ให้ความสำคัญกับการสื่อสารสังคม โดยทำความเข้าใจกับผู้ปฏิบัติงาน ศจพ. ทุกระดับ รวมถึงประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าใจโครงการ/กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาความยากจนอย่างถูกต้อง

การควบคุมการลักลอบเข้าประเทศ และการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เริ่มกลับมาระบาดเป็นวงกว้าง ให้นายอำเภอกำกับดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิด มิให้มีการลักลอบเข้าประเทศ และการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาในประเทศ ให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการกำกับดูแล มิให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเข้าไปเกี่ยวข้องกับการลักลอบเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย อย่างเด็ดขาด