อธิบดีกรมการปกครอง ร่วมประชุมขับเคลื่อนศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (ศจพ.) รุ่นที่ 3 ภาคกลาง เน้นย้ำการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน เป็น “วาระอำเภอ”
10 มีนาคม 2565
วันที่ 7 มี.ค. 2565 เวลา 09.00 น. ณ โรงแรม เซ็นทรา บาย เซ็นทารา ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซนเตอร์ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพ พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดและมอบนโยบายและแนวทางขับเคลื่อนศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (ศจพ.) ในระดับพื้นที่ โดยมี ปลัดกระทรวงมหาดไทย อธิบดี ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด 25 จังหวัดภาคกลาง และ 2 จังหวัดภาคเหนือ จังหวัดอุทัยธานี จังหวัดนครสวรรค์ พร้อมด้วยประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัด พัฒนาการจังหวัด ท้องถิ่นจังหวัด และนายอำเภอ ร่วมรับฟัง และถ่ายทอดสดการประชุมผ่านระบบ DOPA Channel ไปยังทุกจังหวัด/อำเภอทั่วประเทศ โดยมี ปลัดอำเภอ พัฒนาการอำเภอ สาธารณสุขอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ร่วมรับฟัง
ในการนี้ นายธนาคม จงจิระ อธิบดีกรมการปกครอง ได้ชี้แจงข้อราชการสำคัญ ในประเด็นเกี่ยวข้องกับกรมการปกครอง โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้
ขอให้นายอำเภอบูรณาการความร่วมมือของทุกภาคส่วนในพื้นที่ ให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืน โดยกำหนดเป็น "วาระอำเภอ" ที่ต้องดำเนินการให้บรรลุเป้าหมายภายในวันที่ 30 กันยายน 2565 โดยใช้ข้อมูลจาก TPMAP และข้อมูลที่ได้เก็บเพิ่มเติมจากระบบ Thai QM กำชับทีมพี่เลี้ยงให้ติดตาม ดูแลและเป็นที่ปรึกษา ให้แก่ครัวเรือนเป้าหมายอย่างใกล้ชิด รวมถึงการให้ความสำคัญกับการสื่อสารสังคม โดยทำความเข้าใจ ประชาสัมพันธ์ ให้เข้าใจถึงโครงการอย่างถูกต้อง
การกำกับดูแลการบริหารเงินทุนหมุนเวียน ตามโครงการเศรษฐกิจชุมชนขององค์การบริหารส่วนตำบลและเทศบาลตำบล ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยบูรณาการกับทุกภาคส่วนในพื้นที่เพื่อส่งเสริม ให้เกิดการรวมกลุ่มของเกษตรกร หรือกลุ่มอาชีพต่าง ๆ ในหมู่บ้าน ซึ่งจะส่งผลให้กลุ่มเหล่านี้ สามารถเสนอโครงการที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจชุมชนเพื่อขอกู้เงินแบบไม่มีดอกเบี้ยจากเงินทุนหมุนเวียนนี้ได้
ขอให้กำกับดูแลพื้นที่ การเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย และกำกับมิให้ฝ่ายปกครองเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลักลอบเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว หากมีการกระทำผิดจริง กรมการปกครองจะดำเนินการทางวินัยและดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุดต่อไป